MOVIE REVIEW AND STORYLINE: DORAEMON THE MOVIE

Movie Review and Storyline: Doraemon The Movie

Movie Review and Storyline: Doraemon The Movie

Blog Article

รีวิวหนัง โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ Doraemon The Movie


Movie Review and Storyline Doraemon The Movie



ประเภท: แอนิเมชัน / แฟนตาซี / ไซไฟ / ผจญภัย


ผู้กำกับ: คาซุอากิ อิมาอิ


ให้เสียงพากย์ไทยโดย: ฉันทนา ธาราจันทร์, ศันสนีย์ วัฒนานุกูล, ศรีอาภา เรือนนาค, นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์, อรุณี นันทิวาส, นัยรัตน์ ธนไวทย์โกเศส


ความยาว: 115 นาที


กำหนดฉายในไทย: 3 ตุลาคม 2024


 


เรื่องย่อ


มาร่วมกันออกเดินทางผจญภัยครั้งใหม่ใน โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ตอน โลกแห่งซิมโฟนี่ของโนบิตะ ผ่านการบรรเลงเสียงดนตรีแสนไพเราะเพราะพริ้ง และกอบกู้สถานการณ์จากสิ่งอันตรายรอบทิศทางที่มารุกรานโลกแห่งเสียงดนตรีของพวกเขา นับว่าโดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ภาคนี้ ยังคงสร้างความประทับใจในกลิ่นอายของมิตรภาพ ความมุ่งมั่นพยายาม และเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ดูหนังฟรี เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้



โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ตอน โลกแห่งซิมโฟนี่ของโนบิตะ เล่าเรื่องราวของพวกโนบิตะ เมื่อเกิดสถานการณ์แปลกประหลาดบนโลก เนื่องจากเสียงดนตรีในชีวิตประจำวันบนโลกขาดหายไปในบางครั้งบางคราว โดราเอมอน โนบิตะ และผองเพื่อน จึงต้องหาวิถีทางในการช่วยโลกให้พ้นจากวิกฤตในครั้งนี้ เพื่อปกป้องเสียงดนตรีให้ไม่เลือนหายไป ร้อยเรียงความสนุกผ่านการสร้างสรรค์พล็อตเนื้อหารูปแบบใหม่อีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์แอนิเมชันนำเรื่องราวเกี่ยวกับเสียงดนตรีมาชูโรงหลักในการออกเดินทางผจญภัยของโดราเอมอน และผองเพื่อน ซึ่งเรามีความรู้สึกว่าบทภาพยนตร์มีความน่าติดตามและมีสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมากขึ้น ในด้านของการวางปมปัญหา และจุดเชื่อมโยงของตัวละคร แอบมีความซับซ้อนและท้าทายการพิทักษ์โลกของพวกโนบิตะมากเลยทีเดียว อีกทั้ง ยังเสริมความสนุกผ่านมุกตลก และคาแรคเตอร์หลักของตัวละครเดิม ๆ ไว้ได้กลมกล่อมทีเดียว แต่การดำเนินเนื้อหาอาจบอกได้เลยว่ามีรูปแบบเดิม ๆ ทำให้ช่วงแรกค่อนข้างจับทางได้พอสมควร เนื่องจากคาแรคเตอร์ของตัวละครสร้างความจำเจในการผูกปมปัญหาของโนบิตะร่วมกับการผจญภัยในโลกของเสียงดนตรี ซึ่งอาจมองว่าคาแรคเตอร์ของโนบิตะยังคงเป็นภาพจำในรูปแบบเดิมที่สื่อสารให้เขามีความดื้อรั้น เอาแต่ใจ แต่ค่อย ๆ เรียนรู้พัฒนาตนเองต่อไปผ่านการผจญภัย ซึ่งคาแรคเตอร์ของโนบิตะน่าจะสร้างข้อคิด และแง่คิดให้กับน้อง ๆ หนู ๆ หรือผู้ชมได้ค่อนข้างพอสมควรในด้านของความมุ่งมั่นพยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ตนเองไม่ถนัด ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้



โดยเนื้อหาของภาพยนตร์ยังสร้างความประทับใจไม่น้อยในโลกของเสียงดนตรี เพราะสถานที่แห่งนี้ยังมีปมปัญหามากมายที่เติมความท้าทาย และความซับซ้อนมากกว่าเดิม นำโดย มิกกะ และ ชาเปกกุ มาร่วมสร้างสีสันในการผจญภัยของพวกโนบิตะ เมื่อพวกเขาต้องการปกป้องเสียงดนตรีที่เลือนหายไปจากการถูกรุกราน และไม่ใช่เพียงการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งง่าย ๆ แต่พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากัน การร่วมมือกันเพื่อสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ รวมถึงความมั่นใจในตนเองที่กล้าจะแสดงมันออกมาให้ทุกคนได้รับรู้แม้มิติของตัวละครโดยรวมอาจจะไม่ลึกซึ้งมากนัก อาจจะไม่สามารถดึงดูดให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครเหล่านั้น และสร้างภาพจำในระหว่างการดำเนินเนื้อหาสักเท่าไร แต่คาแรคเตอร์ของตัวละครยังคงแฝงข้อคิดเอาไว้ให้เราพอสมควร จากที่กล่าวไปข้างต้นมีหลายแง่คิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตได้ด้านลายเส้นการวาดภาพ และการสร้างแอนิเมชันยังคงมาตรฐานของสตูดิโอผู้สร้าง ตามแบบฉบับของโดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ไว้ได้ดีเช่นเดิม แต่อาจจะมีบางองค์ประกอบของภาพที่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยมากนัก แต่ในส่วนเอฟเฟกต์ของโลกแห่งเสียงดนตรีค่อนข้างทำออกมาได้ดีเลย การเคลื่อนไหวในแต่ละฉากที่ค่อย ๆ พัฒนาและฟื้นคืนสิ่งต่าง ๆ ให้ความรู้สึกว้าวในแต่ละองค์ประกอบของฉากมาก และการออกแบบตัวละครของโลกแห่งนี้ยังมีเอกลักษณ์ชัดเจนอีกด้วย



ซึ่งในภาคนี้มีการชูโรงหลักในเรื่องของเสียงดนตรี องค์ประกอบทางด้านเสียงจึงค่อนข้างเป็นสิ่งสำคัญ และภาพยนตร์ทำออกมาได้ดีมาก ในแง่ของเสียงประกอบต่าง ๆ ลงจังหวะและสร้างอารมณ์ในฉากนั้น ๆ ได้ดี มีเสียงของเครื่องดนตรีหลากชนิดเรียงร้อยทยอยส่งผ่านความไพเราะออกมาอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เช่นเดียวกับเสียงพากย์ไทยที่นอกจากจะมีคุณภาพแน่นแล้ว ยังเติมเต็มภาพจำของตัวละครเอาไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และตัวละครหลักอีกหนึ่งคนของภาคคือ มิกกะ ซึ่งมีการคว้าตัวยูทูบเบอร์ชื่อดัง แป้ง zbing z. มาเป็นผู้พากย์เสียง เธอสามารถถ่ายทอดความนุ่มนวล สดใส และอารมณ์ต่าง ๆ ของตัวละครออกมาได้ดีมากเช่นเดียวกัน



โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ตอน โลกแห่งซิมโฟนี่ของโนบิตะ จึงเป็นอีกหนึ่งภาคที่ยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ดีเช่นเดิม มีการชูโรงพล็อตเนื้อหาของโลกดนตรีซึ่งบรรเลงความไพเราะเสนาะหูออกมาตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่าการดำเนินเนื้อหาอาจจะมีรูปแบบเดิม ๆ เดาทางได้ง่าย แต่มีการสอดแทรกแง่คิดให้เราได้เรียนรู้ในตัวละครอยู่เสมอ ซึ่งองค์ประกอบการสร้างต่าง ๆ ทั้งงานภาพ แอนิเมชัน เสียงดนตรี เสียงพากย์ ค่อนข้างทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ เติมเต็มความสนุกรสชาติกลมกล่อมจนต้องฮัมเพลงตามหลังรับชมจบ...ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกเพศทุกวัยตื้นตันใจแน่นอน


 

ความรู้สึกที่ได้จากการรับชมหนัง


เราว่ามันล้นๆ อย่างที่ความเห็นท่านบนๆ บอกค่ะ ตัวละครจะติดโอเวอร์แอคติ้งเอะอะอะไรก็ตะโกน ทำให้รู้สึกไม่ค่อยจริงจัง ไม่เกี่ยวกับการพากย์นะคะแต่ต้นฉบับการ์ตูนมาแบบนั้น ยกตัวอย่างเราดูล่าสุดคือเดอะมูฟวี่สงครามใต้สมุทร(ที่มีนางเงือก) ฉากที่ชิซุกะหายตัวไป ไจแอนท์กับซึเนะโอะรับหน้าที่ไปค้นหา ซึเนะโอะก็เอาแต่ตะโกนแบบไม่มีสติ ว่ายน้ำพุ่งไปพุ่งมา ทั้งที่มันเป็นฉากที่น่าจะทำให้จริงจังแต่กลับจะทำให้ตลกแล้วดันไม่ตลก มีฉากอื่นๆ ที่เป็นประมาณนี้อีกเยอะพอสมควร ทำให้มันล้นๆ คิดว่าเขาคงมุ่งเป้าไปที่เด็กๆ (เด็กจริงๆ)ยุคนี้มั้งคะ ผู้ใหญ่น่าจะไม่ใช่เป้าหมายของเขา แต่ก็แอบเสียดายนะทั้งที่เราก็โตเป็นผู้ใหญ่ดูโดราเอม่อนภาคเก่าๆ ยังรู้สึกสนุกอยู่ ความรู้สึกที่เคยดูตอนเป็นเด็กก็สนุกไม่ได้รู้สึกว่ามันดูยากหรือซับซ้อนอะไร น่าจะคงกลิ่นอายเรื่องแบบเก่าไว้ พัฒนาแค่พวกงานภาพก็พอ แต่ก็เข้าใจได้เพราะคนทำมันคนละคนกันนี่เนอะ มีใครเป็นเหมือนกันบ้าง ชอบดูโดเรม่อน ชอบมากดูตั้งแต่เป็นตอนๆ ยันเดอะมูฟวี่ทุกตอน แต่เรารู้สึกว่าช่วงหลังๆมานี้โดเรม่อนเริ่มไม่สนุก บทเริ่มแปลก ไม่ใช่แค่ทั้งบทนั้น ทั้งภาพและเสียงอะไรด้วยอะ สังเกตดูว่าเดอะมูฟวี่เก่าๆตั้งแต่ภาคก่อนๆ 5-10 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่ามันสนุกดูได้ไม่เบื่อ ยิ่งดูยิ่งชอบ ถึงดูแล้วก็ยังดูอีก ถึงแม้จะเป็นตอนๆ สมัยก่อนก็ยังสนุกกว่าอยู่ดี รู้สึกว่าเดี่ยวนี้คนทำมันเอามา remix แล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ คือแบบเดิมมันดีกว่าหรืออะไรเงี่ย ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่านะ แต่ส่วนตัวชอบโดเรม่อนมาก และชอบตอนเก่าๆก่อนๆมาก ถึงยังไงก็ยังจะดูโดเรม่อนต่อไปเรื่อยๆ ติดตามตลอด ปล.การ์ตูนอมตะ โดราเอมอนตอนยาวสมัยก่อนมันจะมีพล็อตที่บีบคั้นและดาร์คพอสมควร    เริ่มต้นมาก็สนุกสนานเฮฮาไปตามประสา    พอกลางเรื่องเริ่มเจอปัญหาก็แก้กันไป    พอผ่านไปซักระยะปัญหาต่างๆมันจะเริ่มใหญ่โตไปจนถึงขั้นสิ้นหวังทำอะไรไม่ได้แล้ว    แต่พอช่วงท้ายก็จะมีอะไรซักอย่างมาช่วยแก้ปัญหานั้นไปได้จนกลับมา Happy Ending ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ hd-2u.com เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่



#ดูหนังฟรี #โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ #DoraemonTheMovie #รีวิวหนัง #MovieReview


 
กลับด้านบน

Report this page